รวบตึงวิธีลดความอยากทานน้ำตาล
ความหวาน ศัตรูตัวฉกาจของเรื่องสุขภาพ ถ้าเราทานหวานมากเกินไป ก็อาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความอ้วน เบาหวาน ริ้วรอยก่อนวัย ระบบท่อต่างๆในร่างกาย แปรปรวน วันนี้ สุขภาพดีดี จัดมาให้แล้วค่ะ รวบตึงวิธีลดความอยากทานน้ำตาล เพื่อให้สุขภาพเราดีทุกวัน
รสหวาน เป็นรสที่ถูกใจใครหลายๆคน ทั้งขนมเอย เครื่องดื่มเอย แม้กระทั่งกับข้าวต่างๆ บางคนเติมน้ำตาลแบบไม่เกรงใจเบาหวานเลย พออยากจะเลิกทานหวานก็อดไม่ได้ พาลทำให้หงุดหงิด บอกเลยว่า ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ค่อยๆลด ค่อยๆเลิกไป
วิธีลดความอยากหวาน หรือ อยากน้ำตาล
- ลดหรือเลิกคาเฟอีน เพราะคาเฟอีน เป็นสาเหตุนึง ที่เป็นตัวกระตุ้นความอยากน้ำตาล และบางคนทานเครื่องดื่มประเภทนี้แบบหวานมาก อาจจะค่อยๆเริ่มลดทีละนิด ทีละนิด ก่อน จนไม่ทานเลยในที่สุด
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ในบางครั้งที่เรารู้สึกอยากทานหวาน บางทีอาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของเรากำลังขาดน้ำ ลองดื่มน้ำเปล่าสัก 1 แก้ว แต่ถ้าไม่ชอบน้ำเปล่า อาจจะเติมมะนาวสัก 1 ซีก หรือ Apple Cider สักช้อน เพื่อเพิ่มรสชาติ แล้วรอสัก 10 นาที แล้วดูว่า เรายังอยากทานของหวานอยู่รึเปล่า
- กินผักที่มีรสหวาน การได้รับความหวานจากธรรมชาติย่อมดีกว่า อยู่แล้ว ลองทานแกงจืด พวกต้มผักต่างๆ เช่น หัวหอม แครอท มันหวาน หัวไชเท้า ซึ่งผักเหล่านี้ นอกจากจะมีรสชาติหวาน ที่ทำให้เราลดความอยากหวานแล้ว ยังมีพวกวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายจะทำให้เราสดชื่น และไม่เพลีย รวมถึงช่วยให้เราไม่รู้นอยด์หรือเศร้า เมื่อขาดน้ำตาล การออกกำลังกายยังช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดี และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติอีกด้วย
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน ให้นอนหลับเพื่อฟื้นฟูร่างกาย แล้วเป็นการพักร่าง เพราะเมื่อเราลดน้ำตาล เราจะรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราควรนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมง เพื่อร่างการจะได้ไม่เพลีย และไม่โทรม อารมณ์ก็จะดีไปด้วย
- ลองใช้พวกเครื่องเทศ เครื่องเทศหลายๆชนิด มีรสชาติที่หวาน สามารถใช้แทนน้ำตาลได้ เช่น อบเชย กระวาน กานพลู ลูกจันทร์เทศ เพราะเครื่องเทศเหล่านี้ มีรสชาติหวาน ซึ่งสามารถใช้ทดแทนน้ำตาลได้ หรือถ้าใครไม่ชอบกลิ่นของเครื่องเทศ ก็อาจจะใช้หญ้าหวานก็ได้
ไม่ยากเลยใช่มั้ยค่ะ เพียงแค่เราค่อยๆลด ค่อยๆเลิก เดี๋ยววันนึงปริมาณน้ำตาลที่เราจะได้รับแต่ละวัน น้อยลงอย่างแน่นอน และสิ่งที่ตามมาอีก คือ สุขภาพที่ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Sanook