บำรุงเลือด เลือดดี ชีวิตดี
รู้กันไหมคะ ว่า หาก เราปล่อยให้เลือดไหล ออกจาก เส้นเลือดใหญ่ เพียงแค่ 500cc
หรือ ประมาณ 10% ของปริมาณเลือด ในร่างกายก็ทำให้ เกิดอาการช็อก และ เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
ได้แล้ว ค่ะ ในทุกๆ ส่วนของร่างกาย เรามี เลือดเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น
เลือดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของเรามากๆ แต่เรากับ มีความรู้เรื่องเลือดน้อยมาก
และ ที่น้อยไปกว่าความรู้คือ การบำรุง ให้เลือด แข็งแรง ซึ่งวันนี้ สุขภาพดีดี
จะมาแนะนำวิธีง่ายที่ช่วยดูแลบำรุงเลือด มาแนะนำ กันค่ะ
หน้าที่ของเลือด และ ชนิดของเลือด (แบบเข้าใจ ง๊าย ง่ายๆ ค่ะ)
เลือดเป็นของเหลว ที่หมุนเวียน ในตัว เรา เปรียบเสมือนกองทัพที่จะประกอบไปด้วย
ทหาร 3 เหล่าทัพ ค่ะ แต่ ทหารทั้ง 3 เหล่า จบมาจาก โรงเรียน เดียวกัน นะคะ
คือ ไขกระดูก จ้า เลือด หรือ ทหารทั้ง3 เหล่า แบ่งได้ดังนี้ค่ะ
1.ทหารชุดแดง (เม็ดเลือดแดง)
จะมีสีแดง และ มีรูปร่างเหมือนขนมโมจิ ที่มีรอยบุบตรงกลาง เว้าลงไปเล็กน้อย ค่ะ
เลือดชนิดนี้จะมีอยู่ประมาณ 45% ของเลือดทั้งหมด เม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่เป็นกองเสบียง
คอยลำเลียงออกซิเจน ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย
2.ทหารชุดขาว (เม็ดเลือดขาว)
เปรียบเสมือน ทหารกองรบ ถนัดการเข้าจู่โจมข้าศึก มีจำนวน เพียง 0.7% ของเลือดทั้งหมด
โดยเม็ดเลือดขาวเหล่านี้ยังแบ่งเป็น กลุ่มย่อยๆ หลายกองพล กองร้อย
แบ่งไปตามความถนัดและความเชี่ยวชาญในการสู้รบกับศัตรู (เชื้อโรค)
แต่ละประเภท อีกด้วย ค่ะ โดยแบ่ง กลุ่ม ได้ง่าย ดังนี้ค่ะ
- กลุ่มที่ ทำลาย เชื้อแบคทีเรีย เรียกว่า นิวโตรฟิลล์
- กลุ่มที่ ทำลาย ไวรัส เรียกว่า ทีลิมโฟไซด์
- กลุ่มที่ ทำลาย เชื้อโรคสิ่งแปลกปลอมระยะประชิดตัว และ จะทำการขัดขวางกระบวนการ ในการแบ่งตัว ของเชื้อโรค เรียกว่า แอนติบอดี
- กลุ่มที่ ทำลาย พยาธิต่างๆ เรียกว่า อีโอสิโนฟิลส์
3.ทหารชุดเกาะ (เกล็ดเลือด)
ทหารชุดนี้จะทำหน้าที่ คอยอุดรูรั่วตามผนังหลอดเลือด อวัยวะภายใน รวมถึง บาดแผลภายนอก
เหล่าเกล็ดเลือด เหมือน กองช่างซ่อมบำรุง ทำให้ การลำเลียงเลือดเป็นไปได้อย่างราบรื่นสมบูรณ์
อาการที่เกิดจาก ปัญหา ความผิดปกติของเลือด โดยเฉพาะ เม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็น เลือดที่มีปริมาณ เยอะที่สุด
เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน
ผิวซีด ฝ่ามือซีด ริมฝีปากซีด
หายใจ ติดขัด หายใจลำบาก แม้นไม่ได้ทำกิจกรรมที่ออกแรงเยอะ
มึนงง เวียนศีรษะได้ง่าย (บ้านหมุน แค่ไม่ได้มีปัญหากับระดับ น้ำในหู)
มือเท้า เย็น
อาหารที่ช่วย บำรุงเลือด
3 อาหารบำรุงเลือด
- ธัญพืช
- ตับ และ เลือด
- ผักใบเขียว
เมื่อได้ยิน ชื่ออาหารที่ช่วย บำรุงเลือด หลายคน ถึงกับ หันหน้าหนี เพราะเป็นอาหารที่หลายๆ คนไม่ชอบ
ซึ่งนั้น ก็คือสาเหตุที่ทำให้ เรา ขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุ ที่ช่วยบำรุงเลือดได้ง่าย
แต่ไม่ต้อง กังวลใจ ค่ะ เพราะเราสามารถ เลือกทาน ธาตุเหล็ก ในรูปแบบอาหารเสริม
ทดแทนได้ แต่ควรจะเลือด ในรูปแบบที่ร่างกาย ดูดซึมได้ เช่น แร่ธาตุ ที่อยู่ในรูปแบบ อะมิโนแอซิดคีเลต
ทำไม ต้องเลือก แร่ธาตุ ในรูปแบบ อะมิโน แอซิด คีเลต
เพราะร่างกาย ดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ผ่านลำไส้เล็ก ซึ่งมีความยาวประมาณ 7-8 เมตร
ตลอดเส้นทาง ภายใน ลำไส้เล็ก สามารถดูดซึม สารอาหาร ทุกกลุ่ม ทุกสาร โดยได้ตลอดทาง
(เฉพาะ สารอาหารกลุ่มโปรตีน) แต่สำหรับแร่ธาตุ มีจุดที่จะดูดซึมแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกายได้เพียง 30 CM เท่านั้น
(คิดเป็น0.04%) ของลำไส้เล็ก เปรียบจุดที่ดูดซึมแร่ธาตุ นั้น เป็นเพียง จุดเล็ก ในเส้นทางลำไส้ ทางยาวไกล
ดังนั้น เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุได้มากที่สุด จึงเกิด การคิดค้น
และวิจัย แร่ธาตุต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบโมเลกุลที่เล็กมาก และ ห่อหุ้มด้วยโปรตีน ในรูปแบบ “
อะมิโน แอซิด คีโลต” เพื่อให้ร่างกายดูดซึม ไปใช่งานได้ง่าย เสมือนการดูดซึมโปรตีน นั้นเอง
ซึ่งร่างกาย สามารถดูดซึมได้มากถึง 80% แต่แร่ธาตุ รูปแบบดังเดิม ดูดซึมได้เพียง 20% เท่านั้น
จุดสังเกต ง่ายๆ เพื่อพิสูจน์
คุณภาพในการดูดซึมแร่ธาตุ ในรูปแบบเดิมๆ กับ แร่ธาตุในรูปแบบ
อะมิโน แอซิด คีโลต คือ อาการต่อสนองของร่างกายหลังจาก ทางแร่ธาตุ ในรูปแบบเดิมๆ เช่น
หากทาน ธาตุเหล็ก ในรูปแบบ เหล็กซัลเฟต ที่ดูดซึมได้เพียง 6% จะเกิด อุจจาระที่เป็นสีดำ
ร่วมกับอาการ คลื่นไส้ วิงเวียน ศีรษะ เพราะพิษของ ธาตุเหล็กส่วนเกินที่ไม่ดูดซึม นั้นเอง
ดังนั้น แร่ธาตุ จึงเป็น สารอาหารที่ร่างกายขาดไม่ได้ และ ต้องเลือกทานในรูปแบบ
อะมิโน แอซิด คีเลต เพื่อการดูดซึม ที่ดีที่สุดเท่านั้น