วัคซีนโควิด – 19 Moderna ได้ผลดี พร้อมเข้าเฟส 3
เมื่อวันที่ 14 กรกฎา สำนักงานข่าวต่างประเทศ รายงานผลความสำเร็จ ของการทดลองวัคซีน เพื่อต้านโควิด-19 ของบริษัท Moderna บริษัท ในประเทศ สหรัฐอเมริกา
ที่เพิ่งเผยแพร่ และ ตีพิมพ์ในนิตยสาร New England Journal of Medicine เกี่ยวกับการทดลอง ใชั วัคซีนโควิด -19 ในเฟสแรก ประสบผลสำเร็จ และผ่านไปด้วยดี
ทั้งนี้ ชี้แจงว่า การนำวัคซีนไปพัฒนา กำลังเคลื่อนเข้าสู่ เฟส 3 และหากเป็นผลสำเร็จจริงนั้น ก๋สามารถนำมาใช้กับประชากร หรือ คนจริงได้
วัคซีนดังกล่าว ได้ทำการทดลอง กับอาสาสมัคร เข้ารับวัควีน mRNA-1237 ตัวนี้ สามารถสร้าง และ กระตุ้น ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ได้ดีทั้งหมด มีผลข้างเคียงเพียงอย่างเดียว คือร่างกายของผู้รับ วัคซีน มีอาการหนาวสั่น เหนื่อยล้า ปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อ
และปวด ในบริเวณที่ฉีดวัคซีน เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยวัคซีนต้าน โควิด-19 ชนิดนี้ ที่ผ่านการผลิต และ พัฒนา จากบริษัท Moderna นี้ เป็นวัคซีนแรก ที่ได้รับการยอมรับ ให้ตีพิมพ์ ในวารสารเพื่อสุขภาพ
ปัจจุบัน วัคซีน Moderna เข้าสู่การทดลองในเฟสที่ 2 ที่ต้องการขยาย กลุ่มตัวอย่าง ที่เข้ารับการทดลอง ให้กว้างขึ้น อาจจะขยับไปทั้ง เรื่องเพศ อายุ ภูมิภาค ประเทศ และอื่นๆ เพื่อทดสอบว่า พื้นฐานของการแอคทีฟ ของวัคซีน ในแต่ละกลุ่มตัวอย่างนั้น
มีผลแตกต่างกันไหม มีนัยสำคัญอย่างไร ในแต่ละกลุ่มตัวอย่าง เพื่อจัดการความเสี่ยง และ เพื่อการพัฒนา ให้คุณภาพของวัคซีนนั้น ดีขึ้นไป และ อยู่ในสภาพ พร้อมใช้กับทุกบุคคล ทั่วทั้งโลก และ ที่ต้องเน้นย้ำจริงๆ คือ เมื่อเข้าถึงวัคซีนได้แล้ว ทุกกลุ่ม และ ทุกคน
วัคซีนต้องมีประสิทธิภาพสูง ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และ มีความปลอดภัยสูง เมื่อใช้กับกลุ่มที่แตกต่างกัน อีกด้วย และเมื่อได้ผลสำเร็จ จะขยายผลเข้าสู่เฟส 3 ทันที และ ถ้า หาก ผลเป็นไปด้วยดีจริงๆ การเข้าสู่เฟส 3 จะกระจาย สู่กลุ่มตัวอย่าง ครั้งแรกในสหรัฐ
ที่มีจำนวนมากถึง 30,000 ราย
ขณะนี้ สถานการณ์ ของการพัฒนา วัคซีน โควิดนั้น อยู่ในเฟส 3 เยอะ หลากหลาย และรอสำหรับ การใช้ในกลุ่มตัวอย่าง พร้อมสำหรับการ นำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง หลายพันคน และดูว่า ผลเมื่อฉีดวัคซันเข้าไปแล้ว ยังมีอีกกี่ราย ที่ยังติดเชื้อ
พร้อมกันนั้น ยังรีเช็คผล สำหรับอาสาสมัคร ที่ได้รับยาหลอกไปพร้อมกันด้วย ซึ่งในขั้นตอนนี้ จะเป็นขั้นตอนที่ ทำให้พิสูจน์ ได้จริงๆว่า วัคซีนนั้น มีผลเป็นบวกกับกลุ่มอาสาสมัคร จริง หรือ ไม่?
วัคซีนของ AstraZeneca ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหราชอาณาจักร และ สวีเดน ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, วัคซีนของ Sinopharm และ Sinovac
รวมถึงวัคซีนของสถาบันวิจัยเด็กเมอร์ด็อก ในออสเตรเลียที่พัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จากวัคซีนป้องกันวัณโรค ที่มีอยู่แต่เดิม หากการทดลอง เป็นไปในทิศทางที่ดี หรือสำเร็จ
คาดว่า จะมีความสามารถ ในการผลิต วัคซีนต้านโควิด-19 ปีละประมาณ 500-1000 ล้านโดส และมีความสามารถเริ่มต้นผลิตได้ทันที ในปี 2021
REF : thestandard
Maxxlife Isonity 30 เม็ด เบต้ากลูแคน+วิตามินซี+โรสฮิพ สำหรับคนเป็นภูมิแพ้
Isonity (Beyond Plus)
Beyond Plus Isonity (Wellgate Maxxlife)
บรรจุ 30 เม็ด
อย. 10-1-04741-1-0693
Isonity เบต้ากลูแคน+วิตามินซี+โรสฮิพ สำหรับคนเป็นภูมิแพ้
เบต้ากลูแคน (1,3)/(1,6) beta-glucan สารธรรมชาติ ช่วยเสริมภูมิต้านทาน บรรเทาอาการภูมิแพ้
การทำงานของ Beyond Plus Isonity
1. เบต้ากลูแคน คือ สารสกัดจากยีสต์ดำสามารถให้สารจำพวกเบต้ากลูแคนในปริมาณที่มากกว่าแหล่งอื่น และโครงสร้างของสารที่ได้ยังเป็นโครงสร้างแบบ 1,3/1,6 Beta-Glucan ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาว
2. โรสฮิป อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบีต่างๆ วิตามินดี วิตามินอี น้ำตาลฟรัคโตส กรดซิตริค กรดมาลิค โปแทสเซียม สังกะสี เหล็ก แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อกระบวนการทำงานของร่างกายในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
3. ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ (สารสกัดจากพืชตระกูลส้มหรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเช่น มะขาม ส้มโอ ส้มเขียวหวาน มะนาว เป็นต้น จัดเป็นสารอาหารในกลุ่มของไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีความเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง ละลายน้ำได้ดี ทำงานร่วมกับวิตามินซีได้ดี
4. อะเซโลรา เชอร์รี่ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสาระสำคัญตัวหนึ่งชื่อ trans-beta-carotene ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถเสริมสุขภาพพื้นฐานของร่างกาย มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต่ำ ไม่มีคลอเลสเตอรอล และจากผลการวิจัยพบว่า อะเซโรลา เชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า
วิธีรับประทาน Beyond Plus Isonity
รับประทานวันละ 1 เม็ดพร้อมอาหาร