วัคซีนจีน คุณภาพต่ำ พี่จีนยอมรับเอง

  • Last modified on:4 ปี ago
  • Reading Time:2Minutes
  • Post Words:25Words
  • PostView Count:208Views

ยอมรับเอง วัคซีนจีน คุณภาพต่ำ

ก่อนหน้าที่ไวรัสจะแพร่ไปทั่วโลก เราได้เห็นว่าก่อนหน้า ประเทศจีน

ในเขตของเมืองอู่ฮั่น เป็นแหล่งของการเกิดโรคไวรัสโควิด-19 หรือ Corona Virus

และ ทางประเทศจีนเอง ได้เร่งพัฒนา วัคซีน ในวาระที่เร่งด่วนที่สุด เพื่อช่วย

ในการรักษาประชากรในในเมือง และ เพื่อเป็นแนวทาง ของการนำไปพัฒนาต่อ

เพื่อทำวัคซีน ช่วยเหลือประชากรโลก ในเวลาถัดมา เพราะมันลามไปทั่วโลก

และทุกคนต้องการอะไรก็ได้ ที่ช่วยให้ฝันร้ายนี้จบลงเสียที เพราะทุกอย่าง

มัยพังไปหมด ทั้งเรื่องของวิถีชีวิต และ การเศรษฐกิจ หรือ อื่นๆ ที่เป็นผลพวง

ที่ตามมา จากการติดโรค หรือ การแพร่กระจายของไวรัส ในโลกนี้

 

ไม่นานมานี้ เราได้เห็นภาพการเฉลิมฉลอง ในช่วงปีใหม่ ของประเทศจีน

โดยเฉพาะ ในเขตต้นเรื่อง อย่างอู่ฮั่นเอง ก็เฉลิมฉลองด้วยความคึกครื้น

เนื่องจากแจ้งว่า ประเทศของตน รวมถึงในเขตดังกล่าว พ้นจากภัยของ

โควิด-19 แล้ว ทำให้ออกมาเฉลิมฉลองกันได้อย่างได้ตัวกลัวอะไร

ส่วนนึงต้องชี้แจงเลยว่า วัคซีนเข้ามามีบทบาทแน่นอน เนื่องจาก

เมื่อได้รับการฉีดกระตุ้นภูมิร่างกาย ทำให้สามารถต่อต้านไวรัสนี้ได้

ทำให้เหมือนทุกอย่างจบลงแล้ว ในจีน

 

แต่ใดๆ แล้ว The Origin Of Spicie ยังคงบอกว่าเรา การปรับตัว

เป็นสิ่งสำคัญ และ ความแข็งแกร่ง ในการอยู่รอดอยู่แล้ว เนื่องจากการ

วิวัฒนาการ ทำให้สายพันธ์ุนั้นๆ ปรับตัว และ สามารถใช้ชีวิต

ได้ต่อไป ในโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ไวรัสเองก็ไม่ได้อยากตายเช่นเดียวกัน

มันพัฒนาตัวเอง เพื่อให้มีชีวิตรอด มันปรับตัว วิวัฒนาการ เพื่อให้ตัวเอง

ทรงประสิทธิภาพในร่างของ Host มากขึ้น ใครจะอยากตายละ

 

 

ไวรัว Covid-19 พัฒนาสายพันธุ์ออกมาหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น

จากสายพันธุ์จีน เป็นสายพันธุ์อังกฤษ บราซิล แอฟฟริกา ที่การติดและ

ความรุนแรงต่างกัน ความจริงแล้ว ทุกสายพันธุ์ แพร่ระบาด ปนกันมั่ว

ทั่วโลก อยู่ที่ว่า เราจะติดอันไหน

 

ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้คือ นายเกา ฝู ผู้อำนวยการ ของศูนย์

ควบคุมการแพร่ระบาดของโรค จากจีน ในระหว่าง วาระการประชุมหนึ่ง

ในเมือง เฉิงตู เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา บอกว่า วัคซีน ที่ผลิตได้

ของประเทศจีนนั้น มีประสิทธิภาพต่ำ ซะงั้น!!! และกำลังเร่ง โดยกระบวนการ

ในการนำวัคซีนอื่น ๆ มาผสมกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพของวัคซีน

 

เอ้า !!!! แล้วก่อนหน้านี้ ที่พี่ส่งขายไปทั่วโลกละค้าบบบ!!!

 

โดยนายฝู กล่าวว่า ” วัคซีนของจีน ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก”

โดยที่ผ่านมา รัฐบางจีน พยายามส่งมอบ ให้หลายประเทศทั่วโลก

ได้รับวัคซีนจากจีน ว่าได้ผล มีประสิทธิภาพดี และ ยังทำให้ทั่วโลก

สงสัยในกระบวนการผลิตวัคซีน จากเจ้าดังสองเจ้า คือไฟเซอร์ และ

โมเดอร์นา ว่าวัคซีนนั้น จะใช้ได้ผลจริงรึเปล่า เนื่องจากเป็นเทคโนโลยี

mRna ที่ค่อนข้างใหม่ ในการใช้พัฒนาตัว วัคซีน โควิด-19 ว่าประสิทธิภาพ

การดูแลนั้น ถึงจริง อย่างที่เคลมหรือเปล่า

 

ถ่มน้ำลายรดฟ้า สุดท้ายเข้าหน้าตัวเอง

เพราะกลายเป็นว่า วัคซีนจีนเองนั่นแหละ ที่ได้ผลลัพธ์น้อย ประสิทธิภาพต่ำ

รัฐบาล จึงเร่งพัฒนาวัคซีน ที่ต่างออกไป โดยการนำมาผสมกัน

ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้ประสิทธิภาพของมัน

ล้ำยิ่งขึ้น เพื่อหวังว่า วัคซีนจีน จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน ต่อต้านโควิด-19

 

 

ด้านนายฮวาชิง จากศูนย์ควบคุมโรคอีกคน เผยว่า ขณะนี้จีน

กำลังเร่งพัฒนาวัคซีน ที่พัฒนาจาก mRna แล้วด้วย และเข้าสู่การทดลอง

ทางคลินิก โดยได้รับการสนับสนุนให้ทำ เพราะวัคซีนจีน ต้านได้แค่ไวรัส

สายพันธุ์เก่า หรือ ของจีนเท่านั้น กับสายพันธุ์อื่น ประสิทธิภาพ ไม่เป็นที่น่า

พอใจเลย และ มองว่า การผสมวัคซีน มีความเป็นไปได้สูง ในการพัฒนาเพื่อ

เพิ่มศักยภาพให้กับวัคซีน โดยมีมุมมองร่วม กับสหราชอาณาจักร

ในการเอาวัคซีน ของไฟเซอร์ และ ออนเทค มาผสม กับ แอสต้า

ที่ผู้พัฒนา และ ออกซ์ฟอร์ด พัฒนาร่วมกัน

 

โดยการทดสอบที่ประเทศ บราซิล พบว่า

วัคซีนของจีนนั้น ประสิทธิภาพต่ำมาก จนถึงไม่มีเลย เพราะสามารถ

ทำผลงานได้ที่ 54% สูงกว่าค่าเฉลี่ยเพียง 4% ดดยสาธารณะสุขกำหนดไว้ที่

50% จึงเผยแพร่ได้ ขณะข้อสังเกตคือ ไฟเซอร์ ทำได้ที่ 97%

คราวนี้ คงมองออกได้ซะทีละนะว่า ควรเลือกอะไรดี

ซิโนแวค, แอสต้า, หรือไฟเซอร์ และ โมเดอร์น่า

บทความนี้เป็นประโยชน์หรือไม่?

คลิกที่ดาว เพื่อให้คะแนนบทความ

Average rating 1 / 5. Vote count: 1